ท่านเคยมีอาการเหนื่อยง่ายเวลาออกแรง อ่อนเพลีย หงุดหงิด หน้ามืด เวียนศีรษะ ใจสั่น หรือมีคนทักว่าซีด เหลือง หรือไม่ หากมี เป็นไปได้ว่าท่านอาจกำลังมีภาวะเลือดจางอยู่
ภาวะเลือดจาง หรือเรียกกันติดปากว่า ภาวะซีด เป็นภาวะที่ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ภาวะนี้พบได้บ่อยในประชากรทั่วไป การจะบอกว่าใครมีภาวะเลือดจางนั้น อาจดูจากอาการที่เกิดขึ้น เนื่องจากปกติ เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ในการส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย การที่เม็ดเลือดแดงลดลงจะส่งผลให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ผิดปกติไป อาการมีได้ตั้งแต่เหนื่อยง่ายกว่าเดิมจากเมื่อก่อนเคยเดินขึ้นลงบันไดหลายชั้นได้สบาย ๆ เมื่อมีภาวะเลือดจางก็อาจเหนื่อยตั้งแต่เดินขึ้นชั้นที่ 2 บางคนอาจรู้สึกหงุดหงิด ความคิดความอ่านไม่แจ่มใส หากเป็นรุนแรง อาจมีอาการมึน วูบหรือหมดสติได้ นอกจากนี้บางรายอาจมีความผิดปกติในการทำงานของหัวใจ ถึงขั้นหัวใจล้มเหลว หรือผู้ป่วยหลายรายอาจถูกทักว่า “พักนี้ดูซีด ดูเหลือง” ซึ่งทำให้ต้องระวังว่า อาจจะกำลังมีภาวะเลือดจางอยู่ก็เป็นได้
อาการของภาวะเลือดจางจะรุนแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับระดับของเม็ดเลือดแดง และความสามารถในการปรับตัวต่อภาวะเลือดจางที่ไม่เท่ากันในแต่ละคน ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ แต่ตรวจพบเลือดจางเนื่องจากไปบริจาคเลือด หรือตรวจสุขภาพประจำปี บางรายอาจตรวจพบได้เมื่อมีอาการมากแล้ว
สาเหตุใหญ่ ๆ ของภาวะเลือดจาง ได้แก่
1.การสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง เช่น ขาดสารอาหารที่จำเป็น ได้แก่ ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12
กรดโฟลิค,โรคไตเรื้อรัง, โรคของไขกระดูก, โรคมะเร็ง, โรคข้ออักเสบ, โรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
2.การทำลายเม็ดเลือดแดงมากขึ้น โรคกลุ่มนี้จะเป็นสาเหตุให้เม็ดเลือดแดงอายุสั้นและแตกง่าย
กว่าปกติ ผู้ป่วยมักจะมีอาการตัวและตาเหลือง (ดีซ่าน) ร่วมด้วย เช่น โรคธาลัสซีเมีย ภาวะพร่อง G6PD มาลาเรีย
3. การเสียเลือดอย่างฉับพลัน จากอุบัติเหตุ ภาวะตกเลือดหลังคลอดบุตร
เมื่อสงสัยภาวะเลือดจาง แพทย์จะทำการซักถามประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุ จากนั้นจะต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและประเมินความเร่งด่วนของการรักษา หากเลือดจางรุนแรงมาก ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ให้ออกซิเจน นอนพัก ไม่ออกแรง และอาจต้องให้เลือดแดงทดแทนด้วย
หลักการรักษาภาวะเลือดจางที่สำคัญ คือ การหาสาเหตุและรักษาให้ตรงจุด บางครั้งการพบภาวะเลือดจางอาจทำให้ตรวจพบสาเหตุที่เป็นโรคร้ายแรงที่แอบซ่อนอยู่ เช่น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ดังนั้น การตรวจหาสาเหตุของภาวะเลือดจาง จะเป็นประโยชน์ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะเนิ่น ๆ
ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์